เจาะลึกความหมายดี ๆ จากรอยสัก crossword ของหนุ่ม จองกุก BTS

BTS ศิลปินวงเกาหลีได้กลับกลายมาเป็นบอยแบนด์แห่งยุคที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ผ่านทางด้านผลงานของพวกเขาซึ่งเป็นทั้งกำลังใจและแรงผลักดันให้แฟน ๆ หลายคนหันมาอ่านหนังสือหรือลุกขึ้นมาทำอะไรดี ๆ โดยมีพวกเขาเป็นแบบอย่าง อีกทั้ง BTS ยังมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านในนามกลุ่มศิลปินชายล้วน ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ Love yourself ที่ทำร่วมกับ Unicef ซึ่งเป็นแคมเปญสำหรับเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะ กระทั่งการใช้ชีวิตของสมาชิกแต่ละคนเองก็ยังดำรงได้ด้วยคำเตือนใจที่พวกเขาใช้กับตัวเองเสมอมา

ความหมายของรอยสัก

จอนจองกุก เป็นสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุดของวง BTS เขาเป็นที่รักของทั้ง ๆ บรรดาแฟน ๆ และเหล่าพี่ชายร่วมวงเอง จองกุกเป็นอีกหนึ่งคนที่มีวิถีการดำเนินชีวิตอันน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง การกระทำและคำพูดของเขาที่ถ่ายทอดออกมาก็มักจะกินใจเสมอ รวมไปถึงรอยสักตรงหน้าแขนที่ได้อวดโฉมให้แฟน ๆ ได้เห็นกันเมื่อปีก่อน ยิ่งใน Music video ของเพลง ON แล้ว เรียกได้ว่าเหมาะสมกับเขาเป็นอย่างมาก

รอยสักของจองกุกมีอยู่ด้วยกันหลายที่ แต่ละที่ล้วนแล้วแต่มีความหมายแบบฉบับพิเศษที่ลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเกี่ยวกับความเป็นเกาหลีที่เข้มข้นในสายเลือด อาร์มมี่ที่คือแฟน ๆ ที่น่ารักของเขา หรือจะเป็นตัวตนของเขาเอง หนึ่งในรอยสักที่โดดเด่นเตะตาแฟน ๆ เป็นอย่างมากคือรอยสักที่เป็น crossword ของสองประโยคที่ไขว้กันอยู่ตรงแขนของเขา

จองกุกทำให้ถ้อยคำเหล่านั้นมีเลือดเนื้อและชีวิต มันขยับและร่ายรำทุกครั้งที่เขายกแขนขึ้นและเต้นไปพร้อม ๆ กัน ประโยคสองประโยคนั้นคือ  Make hay while the sun shines ที่แปลว่า จงทำฟางตอนแดดส่อง ก็คือให้รีบคว้าสิ่งดี ๆ  ไว้ในตอนที่มีโอกาส เหมือน ๆ กันกับสำนวนไทยของเราก็คือ น้ำขึ้นให้รีบตัก และ Rather be dead than cool ที่มาจากเพลง Stay Away ของวงในตำนานอย่าง Nirvana ซึ่งจองกุกบอกเอาไว้เองว่าเป็นคติประจำใจของเขาเลยทีเดียว กับความหมายที่หลากหลายแล้วแต่คนจะตีความ ไม่ว่าจะเป็น ขอยอมตายแทนที่จะใช้ชีวิตอย่างไร้ความพยายาม การใช้ชีวิตอย่างหมดไฟแย่เสียยิ่งกว่าการไร้ชีวิต หรือแบบที่แฟนเพลงได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันคือ อยู่อย่างให้คนอื่นคิดว่าเท่ก็ตายไปเสียดีกว่า

วลีปลุกใจ

ถ้อยคำเหล่านั้นได้แผดเสียงจากตัวมันเองทุกครั้งที่จองกุกเผยรอยสักให้เราได้เห็น กลายเป็นวลีเด็ดที่ปลุกใจแฟน ๆ ได้เป็นอย่างดี คติในการดำเนินชีวิตของชายคนนี้มักจะเปี่ยมไปด้วยพลัง เต็มไปด้วยเพลิงไฟแห่งความกระหายในการใช้ชีวิต เขามีสิ่งที่ชอบและรัก และรักตัวเองเพียงพอที่จะแบ่งความรักนั้นกลับคืนสู่ทุก ๆ คนต่อไป นี่จึงอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ BTS ได้รับความรักอย่างล้นหลาม และมากพอจะส่งต่อให้สังคมอีกทอดหนึ่งสืบไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *