ยกภาพวาดสีน้ำมาไว้บนเรือนร่างกับรอยสักแนว Watercolor Tattoo

คนบางคนชื่นชอบและหลงรักภาพวาดสีน้ำเป็นพิเศษเพราะความสดใสและสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของสีน้ำ บางคนยอมลงทุนควักเงินในกระเป๋าซื้อภาพวาดสีน้ำที่ตนเองถูกใจมาประดับไว้ในบ้านเพื่อนั่งมองความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเขา หรือบางคนก็ยอมลงทุนลงแรงไปเรียนไปฝึกวาดภาพสีน้ำกันเลยก็มีเพราะจะได้วาดภาพในแบบที่ตนเองต้องการ แต่ปัจจุบันนี้โลกหมุนไปเร็วมากมนุษย์เราสามารถจัดการกับภาพวาดสีน้ำให้มาอยู่บนเรือนร่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องออกไปหาซื้อภาพวาดสีน้ำ ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียน เพราะภาพวาดสีน้ำได้กลายมาเป็นรอยสักที่มีสีสันสดใส ให้ความรู้สึกเหมือนภาพวาดสีน้ำจริง ๆ และสามารถเลือกรูปภาพ เลือกสี เลือกขนาดได้ตามที่ใจต้องการ

การสักและรอยสักในยุคสมัยปัจจุบันนี้ได้พัฒนาไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จากรอยสักที่เป็นเพียงลายเส้นเหมือน อักขระ ภาษา หรือตัวอักษรในสมัยโบราณ พัฒนามาสู่รอยสักที่เป็นภาพวาดเสมือนจริง ภาพวาดเหนือจริง หรือสัญลักษณ์ ที่มีสีสันสวยงาม และให้ความรู้สึกเสมือนจริงมากกว่า มีผู้คิดค้นริเริ่มรอยสักแนวใหม่ ๆ เกิดขึ้นและได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นคนหนุ่มสาวก็มีอยู่มากมายเช่นกัน และที่กำลังได้รับความนิยมมาก ๆ ในขณะนี้หนึ่งในนั้นย่อมมีรอยสักแนว Watercolor Tattoo อย่างแน่นอน รอยสักแนวนี้เริ่มถือกำเนิดขึ้นในสมัยใด ที่ไหน และใครเป็นผู้ริเริ่มนั้นยังไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่มันเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมราว ๆ 5 ปีก่อนหน้านี้ ลักษณะเด่นของรอยสักแนว Watercolor Tattoo คือการจำลองภาพวาดสีน้ำที่มีสีสันสดใสสวยงามที่เราเราเคยเห็นกันตามนิทรรศการภาพวาดหรือตาม Gallery แสดงผลงานศิลปะทั่วไป นำมาเปลี่ยนพื้นที่ในการสร้างสรรค์จากเดิมที่สีน้ำต้องวาดลงบนกระดาษ ผืนผ้าใบ หรือผ้า ก็นำมาวาดลงบนผิวหนังของมนุษย์แทนโดยเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์และวิธีการวาดจากใช้พู่กัน จานรองสี และสีน้ำ ก็เปลี่ยนมาใช้ เข็มสักกับสีที่ใช้ในการสัก จากการละเลงสีกับน้ำลงบนกระดาษก็เปลี่ยนเป็นการจิ้มเข็มลงบนผิวหนังแต่ยังคงความเป็นสีน้ำไว้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ความรู้สึก การใช้เส้นใช้สี น้ำหนักความเข้มความจางของสี และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนใหญ่แล้วมักนิยมสักกันในหมู่ผู้หญิงหรือกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบความละมุนของสีน้ำ

รอยสักในปัจจุบันได้กลายมาเป็นเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและกำเนิดสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ ราวกับว่ามันได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสไตล์การแต่งตัวในกลุ่มวัยรุ่นที่หลงใหลในแฟชั่น กลายมาเป็นศาสตร์ศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่รวมไว้กับแฟชั่นซึ่งไม่ต่างอะไรกับการแต่งตัวเพื่อบ่งบอกถึงสไตล์หรือรสนิยมของผู้สวมใส่เสื้อผ้านั้นๆ รอยสักก็เป็นเช่นนั้น รอยสักแต่ละแนวแต่ละสไตล์ก็บ่งบอกถึงรสนิยมความชอบและการใช้ชีวิตของผู้ที่สักได้เช่นกัน