Tribal Tattoo รอยสักชนเผ่าที่ไม่อยู่ในชนเผ่าอีกต่อไป

ในอดีตกาลผู้คนในสังคมมักจะมองคนที่มีรอยสักเป็นพวกป่าเถื่อน พวกคนน่ารังเกียจ หรืออาจมองเป็นโจรขโมยต่าง ๆ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะในสมัยก่อนพวกชนเผ่าที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าลึก มีวิถีชีวิตแบบป่าเถื่อน ไร้อารายธรรม และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์มักจะนิยมการสักและมีรอยสักกันเกือบจะทุกคน ทำให้คนส่วนใหญ่ในสังคมมองคนที่มีรอยสักว่าเป็นพวกคนป่า ไร้อารายธรรม และในสมัยนั้นการสักยังไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมมากนัก ผู้คนส่วนน้อยที่จะรู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับการสัก เพราะฉะนั้นผู้คนที่มีรอยสักในสมัยนั้นจึงถูกเหมารวมว่าเป็นคนไม่ดี คนเถื่อน ไปโดยไม่มีข้อแก้ตัวเพราะหลักฐานคือรอยสักที่ติดอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

Tribal Tattoo หรือรอยสักแนวชนเผ่าถือว่าเป็นรอยสักที่เก่าแก่และมีมานานที่สุดในประวัติศาสตร์ของรอยสัก เชื่อกันว่ามีจุดกำเนิดมาจากชาว Polynesian หรือชนเผ่าที่มีถิ่นอาศัยอยู่แถบหมู่เกาะเช่น Hawaii , Samoa , Tahiti ซึ่งพวกชนเผ่าเหล่านั้นนิยมสักตามร่างกายเพื่อบ่งบอกวัฒนธรรมและประวัติความเป็นมาของเผ่า บ่งบอกถึงสถานะทางสังคม ความสามารถ หรือชนชั้นภายในชนเผ่านั้น ๆ ในบางเผ่าอาจจะสักเพื่อแสดงถึงความศรัทธาต่อศาสนาหรือภูตผีที่พวกเขาเคารพ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลายเส้นสีดำมีความบางความหนาของเส้นที่แตกต่างกัน ลายแต่ละลายให้ความหมายที่แตกต่างกันตามชนเผ่านั้น ๆ ลักษณะเด่นของรอยสักแนวชนเผ่าคือการใช้เส้นหนา ๆ และการถมดำไม่นิยมใช้สีสันอื่น ๆ ในการสัก จุดประสงค์และความหมายในการสักของแต่ละเผ่านั้นก็แตกต่างกันออกไปยกตัวอย่างเช่น ชนเผ่า Samoa รอยสักของชาว Samoa จะมีลักษณะเป็นเส้นสีดำหนา ๆ ใช้สีดำเข้มและมีสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อบ่งบอกถึงเรื่องราวของตัวผู้สักเอง วิธีการสักของชาว Samoa จะใช้ฟันของหมูหรือฟันของฉลามเป็นเข็มในการสัก ซึ่งผู้สักต้องมีความอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างมากเพราะการสักต้องสักให้เสร็จภายในครั้งเดียว ส่วนชนเผ่า Tahiti นั้นคนที่สามารถมีรอยสักได้คือพวกชนชั้นสูงในเผ่าเท่านั้น เพราะมันจะบ่งบอกถึงฐานะและลำดับชั้นภายในเผ่าอย่างชัดเจน และการสักของชนเผ่า Hawaii จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติคล้ายกับการบูชาหรือแสดงความเคารพ เพราะชาวฮาวายนับถือธรรมชาติเป็นพระเจ้าและเชื่อว่าธรรมชาติคือผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง ทุกวันนี้รอยสักและความเชื่อตามชนเผ่าต่าง ๆ ก็ยังมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือสังคมของโลกที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้รอยสักของชนเผ่าต่าง ๆ แพร่ขยายออกมาสู่สังคมเมือง ทำให้รอยสักและความหมายต่าง ๆ พัฒนาเข้าไปอยู่ในสังคมได้อย่างกลมกลืน

ปัจจุบันนี้มีคนนำรอยสักชนเผ่ามาพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้นเพื่อดึงดูดคนในสังคมให้หันมาสนใจรอยสักแนวชนเผ่า ผู้คนนิยมชมชอบรอยสักลายชนเผ่าอยู่ไม่น้อยเพราะด้วยเสน่ห์ของลายเส้น ความแปลกใหม่แปลกตา ความหมายและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ทำให้ Tribal Tattoo กลายมาเป็นรอยสักยอดนิยมของคนเมืองได้อย่างไม่มีข้อสงสัย