นักร้องหน้าสวยเสียงหวาน พลอยชมพู กับรอยสักที่เธอภูมิใจ
ย้อนไปแค่เมื่อสักสิบปีก่อน การสักก็ดูไม่ดีในสายตาของคนในสังคม ยิ่งเป็นเด็กวัยรุ่น พ่วงคำว่าเพศหญิงมาด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่ แต่ในวันนี้ที่สังคมเปิดกว้างขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ญานนีน ภารวี ไวเกล หรือที่เรารู้จักกันในนาม พลอยชมพู ศิลปินหญิงมากความสามารถที่เป็นเจ้าของเพลงดัง ๆ อย่าง ปลิว และ ชักดิ้นชักงอ ก็ออกมาประกาศผ่านทางอินสตาแกรมเพื่ออวดโฉมรอยสักสวย ๆ ให้เพื่อน ๆ และแฟน ๆ ได้เห็นกัน
พลอยชมพูกับรอยสัก
เส้นทางสู่รอยสักของพลอยชมพูเริ่มต้นมาจากการที่เธอได้เป็นพิธีกรรายการจาก MTV ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับรอยสัก และผลงานชิ้นนี้เองที่เปลี่ยนสายตาของเธอที่มีต่อรอยสักไปตลอดกาล เพราะไม่ใช่เพียงแค่การเอาเข็มจิ้มลงบนตัวแล้วก็จบไป แต่รอยสักย้ำให้เห็นถึงชีวิต ความเป็นมา ตัวตนและความหมายของคน ๆ นั้นที่เขาบัญญัติขึ้นเพื่อตัวเอง ด้วยตัวเอง
รอยสักแรกของเธอคือ VENI VIDI VICI ที่สักไว้ด้านหลังมือขวา เป็นวลีอมตะภาษาละตินจาก Julius Caesar หลังจากชนะศึกจากเมือง Zela ซึ่งแปลความหมายเป็นไทยได้คือ ฉันมา ฉันเห็น ฉันชนะ เป็นคำที่บอกเล่าถึงความเป็นพลอยชมพูได้เป็นอย่างดี เพราะเธอผ่านเรื่องราวใด ๆ ที่เจ็บปวดและทำร้ายจากในวงการเจ็ดปีที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังยืนยันจะสู้ต่อไปบนเส้นทางที่ไม่อาจโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่ด้วยความไม่ย่อถอยของเธอนี้เองคงจะพาเธอไปสู่ประตูแห่งชัยชนะได้ในสักวันหนึ่งดังที่ใจเธอปรารถนา
อีกหนึ่งลายคือผู้หญิงผมชมพูและหมาป่าเป็นรูปการ์ตูน สิ่งที่เธออยากจะสื่อออกมาคือความแข็งแกร่งของตัวเอง ที่จะไม่ย่อท้อในการเป็นตัวเอง ไม่ต้องตามใจใคร ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร เติบโตมาในแบบที่อยากเป็น และแสดงให้ทุกคนเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอเพื่ออนาคตที่ปราศจากคำถามว่าพลอยชมพูเป็นคนแบบไหน หรือคิดถึงพลอยชมพูคนเก่า เพราะตัวเธอในปัจจุบันคือคำตอบของทุกคำถาม เธอเลิกวิ่งหนีตัวเองจากคำพูดของคนอื่น และโอบกอดตัวเอง จากคำพูดของตัวเอง
รอยสักเท่ากับไดอารี่
ไม่ว่าจะเป็นใคร รอยสักก็เป็นอีกหนึ่งบันทึกที่จะคอยเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตเท่าที่ใจเราอยากจะเขียน เหมือนที่พลอยชมพูดได้เปลี่ยนแนวทางและทัศนคติต่อการสักไปอย่างสิ้นเชิง เธอกลายมาเป็นคนหลักรักในหยดหมึกที่ซึมอยู่กับร่างกาย และภาคภูมิใจกับการแสดงมันให้ใครก็ตามได้เห็น ไม่อายที่จะปิดบัง และท้ายที่สุด เธอยังมีความมั่นใจและรักตัวเองมากขึ้นอีกด้วย นับเป็นผลพลอยได้จากการเริ่มรักตัวเองก่อน และเราจะได้ยิ่งรักตัวเองเพิ่มมากขึ้นในวันถัด ๆ ไป ภูมิใจกับตัวเองให้มากในวันที่ถูกฝังหมึกลงไป เพื่อทุกครั้งที่กลับมามองจะยิ่งภูมิใจยิ่งขึ้นไปอีก