นักกีฬาว่ายน้ำ 4 คนที่มีรอยสักลึกซึ้งกินใจ

กีฬาว่ายน้ำกับรอยสักกลายเป็นของที่เข้ากันอย่างที่คนนอกอาจไม่สามารถคาดเดาได้ แต่นักกีฬาว่ายน้ำหลาย ๆ ท่านก็มีการเล่าเรื่องเศษเสี้ยวของชีวิตตัวเองผ่านรอยสักที่น่าสนใจ เพราะเมื่อได้ลงแข่งแล้ว การถอดเสื้อออกทั้งหมด คือการเปิดโฉมกระดาษหนึ่งแผ่นให้คนทั่วโลกได้เห็น และหลายครั้งที่เราเห็นกระดาษเหล่านั้นเต็มไปด้วยรูปวาดจากน้ำหมึกสีดำ ที่บางครั้งก็เข้าใจยากไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่เรามักจะตกตะลึงกับความเท่ของมันมากกว่า จนบางครั้งคนที่มาชมการแข่งขันว่ายน้ำในแต่ละครั้งก็เหมือนได้ดูงานจัดแสดงศิลปะบนร่างกายแถมไปอีกด้วย

4 หนุ่มนักว่าย ผู้เป็นหนึ่งกับน้ำ

1.Ryan Cochrane จาก แคนาดา

เขาคือโลมาหนุ่มผู้ปราดเปรียวและถึกทน เพราะสิ่งที่เขาถนัดมากที่สุดคือการว่ายน้ำระยะไกล ที่ซึ่งต้องอาศัยพละกำลังทั้งแรงกายและแรงใจเป็นอย่างมาก เข้ากันได้ดีกับประโยคที่เขาเลือกเอามาสักเพราะความชอบส่วนตัวอย่าง “Men talk of killing time while time quietly kills them.” สุด ๆ

2.Bruno Fratus จาก บราซิล

ถ้าพูดถึงกีฬาว่ายน้ำ ก็คงต้องยอมให้บราซิล และ Bruno Fratus ผู้นี้เองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับการยอมรับในฝีมือและฝีเท้าเช่นกัน เขาสักคำภาษิตจากโอลิมปิกแบบฉบับเวอร์ชันภาษาละตินไว้ว่า “Citius, Altius, Fortius” ความหมายก็คือ เร็วขึ้น สูงขึ้น แข็งแกร่งขึ้น ช่างเหมาะกับกีฬาว่ายน้ำดีจริง ๆ

3.Joseph Schooling จาก สิงคโปร์

นักกีฬาว่ายน้ำสุดเท่อย่าง Joseph Schooling นั้น ถึงแม้ท่อนแขนของเขาจะถูกเติมเต็มไว้แล้วด้วยศิลปะชั้นดี เขายังสัก Longhorn ที่เป็นวัวมีเขายาว เป็นสัตว์หายาก สัญลักษณ์ประจำ University of Texas ของเขา แถมยังมีประโยคเด็ด COME AND TAKE IT อีกด้วย มองเผิน ๆ แล้วเหมือนจะท้าทายให้กับคนที่ว่ายตามหลังเขาอยู่ ถ้าแน่จริงก็มาเลย

4.Anthony Ervin จาก สหรัฐอเมริกา

เขาคือคนที่หลายคนในวงการว่ายน้ำน่าจะคุ้นหน้ากันดี เพราะ Anthony Ervin เคยลงแข่งและประสบความสำเร็จมาแล้วนักต่อนัก นอกจากรอยสักที่แขนของเขาที่สื่อถึงชีวิตประจำวันในแต่ละวัน การเปลี่ยนผ่านของแต่ละช่วงวัย และตราโอลิมปิกที่เขาตัดสินใจสักเป็นลายแรกแล้ว รอยสักทั้งหลายมักเป็นรอยสักที่ยังไม่เสร็จดีแบบสมบูรณ์แบบ เพื่อเปรียบเทียบกับตัวเขาเองที่ชีวิตยังไม่จบสิ้น ยังมีอะไรใหม่ ๆ อีกมากมายที่ต้องค้นคว้าและเรียนรู้ 

การว่ายน้ำและบอดี้อาร์ท

เพราะกีฬาว่ายน้ำเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่เราจะได้เห็นเนื้อหนังมังสามากที่สุด เนื่องจากนักว่ายน้ำชายต้องถอดเสื้อในการลงแข่ง มันจึงกลายเป็นสถานที่สำหรับชมนิทรรศการภาพวาดรอยสักในบางครั้ง บนผืนผ้าใบที่มีชีวิต และห้วงจังหวะวินาทีที่รอยสักพวกนั้นถูกนำลงไปแหวกว่ายไปกับเกลียวน้ำ วินาทีนั้นเองที่มันจะได้พิสูจน์ถึงความงดงามของตัวเองได้ดีที่สุด จากสถานที่เล็ก ๆ สู่สายตาของผู้ชมที่สามารถเข้าถึงได้แบบทั่วโลก